คลังความรู้ระบบราง

...

เหลียวหลัง แลหน้า เพื่อการพัฒนาโครงข่ายรถไฟของประเทศไทย (ตอนที่ 2)

National Traffic Safety and Environment Laboratory (NTSEL)

เดิม NTSEL ที่จัดตั้งในปี 1950 ภายใต้กระทรวงคมนาคมของประเทศญี่ปุ่น เป็นห้องปฏิบัติการและศูนย์ทดสอบ ที่สนับสนุนการกำหนดนโยบายของรัฐบาล ( Government policymaking) และการสร้างมาตราฐาน (Standardization) สำหรับยานยนต์ (Motor vehicles) และยานพาหนะอื่นๆ สำหรับการคมนาคมทางบก (Land transportation) แต่ในปี 2016 ได้ควบรวมกับ National Agency of Vehicle Inspection (NAVI) และได้กลายเป็น NTSEL ในปัจจุบัน ซึ่ง NTSEL เป็นศูนย์ทดสอบฯ หลักในการพัฒนาองค์ความรู้เพื่อกำหนดนโยบายและมาตราฐานต่างๆด้านการขนส่งทางบกของประเทศญี่ปุ่น ที่เกี่ยวข้องกับยานยนต์ ที่ครอบคลุมตั้งแต่การออกแบบไปจนถึงการใช้งานจริง โดยเป้าหมายและนโยบายของ NTSEL ดังแสดงในรูปที่ 2


รูปที่ 2 แสดงเป้าหมายและนโยบายของ NTSEL


โดยภารกิจสำคัญของ NTSEL นั้นล้วนเกี่ยวข้องกับการศึกษา วิจัย และ ทดสอบ เพื่อสร้างองค์ความรู้พื้นฐานในการกำหนดนโยบายสาธารณะด้านการขนส่งทางบก และในการกำหนดมาตรฐาน ยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์



 โดยภาระหน้าที่ที่สำคัญ 9 ด้านของ NTSEL ประกอบด้วย

1.      1.  วิจัยปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมที่เกี่ยวข้องกับยานยนต์ (Research on environmental issues)

2.      2.  ศึกษาปัญหาด้านความปลอดภัยเนื่องจากยานยนต์ (Study automotive safety issues)

3.      3.  ศึกษาด้านระบบการขนส่ง (Study transportation system)

4.      4.  งานรับรองที่เกี่ยวข้องกับระบบราง (Work on railway certifications)

5.      5.  งานด้านการประสานควบรวมระเบียบข้อบังคับด้านยานยนต์เพื่อความเป็นสากล (Work on international harmonization of motor vehicle regulations)

6.      6. งานด้านการวิจัยด้านการขับอัตโนมัติ (Work on automated driving research)

7.      7. งานด้านการศึกษา ICT (Work on ICT studies)

8.      8. งานด้านการอนุมัติการทดสอบยานยนต์ (Work on automobile type approval tests)

9.      9. งานด้านการตรวจสอบทางเทคนิคที่เกี่ยวข้องกับการเรียกคืน (Work on recalled-related technical verification)


โดยคณะดูงานได้มีโอกาสเข้าไปเยี่ยมชมงานในด้าน Study transportation system ที่เห็นถึง ห้องจำลองการขับรถไฟ Driver’s cab เพื่อการประเมินด้านความปลอดภัยของการดำเนินงาน (Operation) ของรถไฟ (ดังแสดงในรูปที่ 3) และแท่นการทดสอบแคร่บรรทุกของรถไฟ (Rail bogie truck) (รูปที่ 4)


รูปที่ 3 ห้องจำลองการขับรถไฟ Driver’s cab


เมื่อเหลียวหลัง มองกลับมาที่ประเทศไทยอีกครั้ง พบว่าศูนย์ทดสอบที่เป็นองค์กรณ์ที่รับรองมาตราฐานของชิ้นส่วนยานยนต์ (รถไฟ รถยนต์) เป็นองค์กรที่มีความสำคัญขั้นสุดต่อการพัฒนาองค์ความรู้ จนนำไปสู่มาตรฐานของประเทศที่เป็นที่ยอมรับในระดับสากล ถ้าปราศจากองค์กรแบบ NTSEL ในประเทศไทยแล้ว เป็นการยากมากที่จะทำให้เกิดการพัฒนาชิ้นส่วนยานยนต์ที่เป็นองค์ความรู้ของประเทศไทยได้



รูปที่ 4 Bogie truck test plant

            

            อีกทั้งจะพบว่า การกำหนดนโยบายสาธารณะ รวมไปถึงกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับยานยนต์ของประเทศญี่ปุ่น อยู่บนพื้นฐานของการศึกษาและวิจัย จนตกพลึกถึงออกมาเป็นนโยบาย ที่จะนำมาใช้กับประชาชนในประเทศ แต่การกำหนดนโยบายสาธารณะด้านยานยนต์ของประเทศไทย แทบจะไม่ได้อ้างอิงการศึกษา จากสถาบันกลางแบบ NTSEL เลย ลองจินตนาการดูว่า ถ้ามีบริษัทฯ เอกชนของไทย คิดค้นชิ้นส่วนรถไฟที่สามารถผลิตขึ้นได้ในประเทศ และสามารถใช้งานได้เหมาะสมกับบริบทของประเทศไทย จาการศึกษา in-house ของบริษัท (ดีกว่า การนำเข้า เพราะศึกษาโดยใช้พื้นฐานตัวแปรในประเทศ) แต่เมื่อผลิตออกมาแล้วจะเกิดคำถามตามมาว่า ชิ้นส่วนดังกล่าวสามารถใช้ได้จริงหรือเปล่า ได้มาตรฐานหรือเปล่า เมื่อไม่มีหน่วยงานที่สามารถรับรองความเป็นมาตราฐานของชิ้นส่วนดังกล่าว จึงทำให้เอกชนของไทย ไม่สามารถที่จะผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ออกมาสู่ตลาดได้

ในทางกลับกัน ถ้าประเทศไทย มีหน่วยงานเหมือน NTSEL สามารถออกแบบการทดสอบ ที่เหมาะสมและได้มาตรฐานกับชิ้นส่วนดังกล่าวได้ และรับรองว่า สามารถใช้ได้กับรถไฟของประเทศไทย ชิ้นส่วนรถไฟดังกล่าวก็สามารถเอามาใช้กับการขยายโครงข่ายรถไฟของประเทศไทยได้ ดังนั้นจะเห็นว่า ถ้ามีแนวทางการรับรองมาตรฐาน จากหน่วยงานหรือสถาบันกลางที่น่าเชื่อถือแบบ NTSEL ก็จะมีแนวทางให้เอกชนของไทย กล้าที่จะลงทุนในการศึกษา วิจัย และพัฒนาชิ้นส่วนยานยนต์ (รถไฟ) ก็จะนำไปสู่การยกระดับองค์ความรู้ในแวดวงของอุตสาหกรรมยานยนต์ที่เกี่ยวข้องกับรถไฟไทยได้ต่อไปในอนาคต





ผู้แต่ง : รองศาสตราจารย์พีรพงศ์ จิตเสงี่ยม

สาขาที่เกี่ยวข้อง : Geotechnical

28 พฤษภาคม 2567

เอกสารดาวน์โหลด :